255. การบวชสังฆานุกรดำเนินไปอย่างไร



ในการบวชสังฆานุกร ผู้สมัครได้รับแต่งตั้งให้รับใช้ในลักษณะพิเศษภายใต้ศีลบวช เพราะเขาแสดงให้เห็นถึงพระคริสตเจ้าผู้เสด็จมา “มิได้มาเพื่อให้ผู้อื่นรับใช้แต่มารับใช้ผู้อื่น และมอบชีวิตของตนเป็นสินไถ่เพื่อมวลมนุษย์” (มธ.20:28) ในพิธีบวช มีการกล่าวว่า “ในฐานะศาสนบริกรของพระวาจาของพระแท่น และของความรักเมตตา (สังฆานุกร) จะกระทำตนเป็นผู้รับใช้ของทุกคน”

ต้นแบบของสังฆานุกรคือนักบุญสเทเฟนมรณสักขี เมื่อบรรดาอัครสาวกในพระศาสนจักรสมัยแรกเริ่มที่กรุงเยรูซาเล็มเห็นว่าพวกเขามัวแต่ยุ่งอยู่กับงานเมตตากิจมากมาย จึงแต่งตั้งบุรุษเจ็ดคนขึ้น “เพื่อไปแจกอาหาร” บุคคลแรกที่กล่าวถึงคือ สเทเฟนผู้ “เปี่ยมด้วยพระหรรษทานและพระอานุภาพ” เขาทำสิ่งต่าง ๆ มากมายเพื่อความเชื่อใหม่ และเพื่อคนยากจนในชุมชนคริสตชน เป็นเวลานานหลายศตวรรษที่สังฆานุกรเป็นเพียงขั้นตอนหนึ่งของศีลบวชในการก้าวสู่การเป็นพระสงฆ์ แต่ปัจจุบันกลับมาเป็นกระแสเรียกอิสระอีกครั้งหนึ่ง ทั้งสำหรับบุรุษที่ถือโสดและที่แต่งงานแล้ว ในแง่หนึ่ง เรื่องนี้เป็นการให้ความสำคัญกับการรับใช้ ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะอย่างหนึ่งของพระศาสนจักร และอีกแง่หนึ่งเป็นการช่วยเหลือพระสงฆ์เหมือนในพระศาสนจักรสมัยแรกเริ่ม ที่แต่งตั้งและบวชศาสนบริกรผู้ทำหน้าที่เฉพาะการอภิบาลและด้านสังคมของพระศาสนจักร การบวชสังฆานุกรเป็นตราประทับตลอดชีวิต เปลี่ยนแปลงหรือยกเลิกมิได้ เช่นเดียวกับการบวชพระสงฆ์          140