ศีลศักดิ์สิทธิ์มิใช่มายากล ศีลศักดิ์สิทธิ์จะบังเกิดผลได้ ก็ต่อเมื่อผู้นั้นเข้าใจและยอมรับด้วยความเชื่อ ศีลศักดิ์สิทธิ์มิได้เรียกร้องให้มีความเชื่อเท่านั้น แต่ยังทำให้ความเชื่อมั่นคง และแสดงออกถึงความเชื่อนั้นด้วย (1122-1126)
พระเยซูเจ้าทรงมอบหมายให้บรรดาอัครสาวกเป็นกลุ่มแรกที่เทศน์สอนประชาชนให้มาเป็นศิษย์ของพระองค์ นั่นก็คือปลุกความเชื่อของพวกเขา และหลังจากนั้นจึงค่อยล้างบาปให้พวกเขา ดังนั้น จึงมีสองสิ่งที่เราได้รับจากพระศาสนจักรคือ ความเชื่อและศีลศักดิ์สิทธิ์ในทุกวันนี้ก็เช่นกัน ผู้ที่มาเป็นคริสตชน มิใช่แค่โดยทางพิธีกรรม หรือจดรายชื่อลงในทะเบียนเท่านั้น แต่โดยการยอมรับความเชื่อแท้จริง เราได้รับความเชื่อแท้จริงจากพระศาสนจักร พระศาสนจักรเป็นผู้รับรองความเชื่อนี้ เนื่องจากความเชื่อของพระศาสนจักรแสดงออกในพิธีกรรมจึงไม่มีการเปลี่ยนแปลง หรือใช้พิธีกรรมศีลศักดิ์สิทธิ์ใด ๆ ตามความพอใจของศาสนบริกร หรือ หมู่คณะที่มาชุมนุมกัน