📌 365 วัน สู่ความเชื่อที่หยั่งลึก "จากคำสอน สู่ความเชื่อ เพื่อพบพระเจ้า"
หยั่งลึกในความเชื่อวันละนิดกับชีวิตที่ใกล้ชิดพระเจ้ามากยิ่งขึ้น
แผนกคริสตศาสนธรรมผู้ใหญ่ ฝ่ายงานธรรมทูต อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ ขอนำเสนอหนังสือคำสอนพระศาสนจักรคาทอลิก (CCC) ฉบับหนังสือเสียง ซึ่งจัดทำขึ้นเพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้สนใจที่อาจไม่สะดวกในการอ่านในขณะใดขณะหนึ่ง และเป็นพิเศษเพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้สนใจที่มีความทุพพลภาพทางสายตา ทั้งนี้ เป็นการเปิดโอกาสช่วยพวกเขาให้ได้รับฟังและได้เรียนรู้ถึงคำสอนของพระศาสนจักรคาทอลิก รวมถึงคำสอนของพระเยซูเจ้าและบรรดาผู้ศักดิ์สิทธิ์ที่น่าสนใจ แทนการอ่าน (สำหรับเนื้อหาแบบปกติในแต่ละวัน สามารถอ่านติดตามอ่านได้ที่ด้านล่างนี้ครับ 👇)
––––––––––––––––––––
📌 วันที่ 5
- (CCC 26)
บทที่หนึ่ง มนุษย์ “เข้าใจ” พระเจ้าได้
- I. ความปรารถนาที่จะพบพระเจ้า (CCC 27-30)
ส่วนที่หนึ่ง “ข้าพเจ้าเชื่อ” – “ข้าพเจ้าทั้งหลายเชื่อ”
CCC 26 เมื่อเราประกาศยืนยันความเชื่อของเรา เราเริ่มด้วยคำว่า “ข้าพเจ้าเชื่อ” หรือ “ข้าพเจ้าทั้งหลายเชื่อ” ก่อนที่เราจะอธิบายเรื่องความเชื่อของพระศาสนจักร ดังที่เราประกาศยืนยันในบท “ข้าพเจ้าเชื่อ” ดังที่เราเฉลิมฉลองในพิธีกรรม ดังที่เรานำมาปฏิบัติในชีวิตโดยปฏิบัติตามบทบัญญัติต่างๆและโดยการอธิษฐานภาวนา เราน่าจะถามก่อน คำว่า “เชื่อ” นี้หมายความว่าอย่างไร ความเชื่อ เป็นการตอบสนองที่มนุษย์มอบให้แก่พระเจ้าผู้ทรงเปิดเผยและมอบพระองค์ให้แก่เขา พร้อมกันนั้นยังประทานความสว่างแก่มนุษย์เมื่อเขาแสวงหาความหมายสุดท้ายของชีวิตของตน ดังนั้นก่อนอื่นหมดเราจะพิจารณาถึงการแสวงหานี้ของมนุษย์ (บทที่หนึ่ง) แล้วจะพิจารณาถึงการเปิดเผยพระองค์ที่พระเจ้าทรงใช้เป็นหนทางมาพบกับมนุษย์ (บทที่สอง) และในที่สุดจะพิจารณาถึงการตอบสนองต่อความเชื่อนี้ (บทที่สาม)
บทที่หนึ่ง มนุษย์ “เข้าใจ” พระเจ้าได้
I. ความปรารถนาที่จะพบพระเจ้า
CCC 27 ในใจของมนุษย์มีความปรารถนาที่จะพบพระเจ้าจารึกไว้ เพราะมนุษย์ได้รับการเนรมิตสร้างจากพระเจ้าและเพื่อพระเจ้า พระเจ้าไม่ทรงหยุดยั้งเลยที่จะดึงดูดมนุษย์มาหาพระองค์ และในพระเจ้าเท่านั้นมนุษย์จะพบความจริงและความสุขที่เขาแสวงหาอยู่ตลอดเวลาได้
“เหตุผลพิเศษของศักดิ์ศรีที่มนุษย์มีตั้งอยู่ในการที่เขาได้รับเรียกให้มีความสัมพันธ์กับพระเจ้า ตั้งแต่แรกเริ่มแล้วมนุษย์ได้รับเชิญให้สนทนากับพระเจ้า เขาดำรงอยู่ไม่ได้ ถ้าไม่ใช่เพราะพระเจ้าทรงเนรมิตสร้างเขาขึ้นมาเพราะความรัก และทรงรักษาเขาไว้ตลอดมาด้วยความรัก เขาไม่อาจมีชีวิตได้อย่างสมบูรณ์ตามความจริง ถ้าเขาไม่ยอมรับความรักนั้นโดยอิสระเสรีและมอบตนเองให้แก่พระผู้สร้างเขาขึ้นมา”
CCC 28 จากประวัติศาสตร์ในอดีตจนถึงปัจจุบันนี้ มนุษย์ได้แสดงให้เห็นว่าพยายามแสวงหาพระเจ้าด้วยความเชื่อและการปฏิบัติต่างๆ (เช่นการอธิษฐานภาวนา การถวายสักการบูชาคารวกิจ การรำพึงไตร่ตรอง ฯลฯ) รูปแบบการแสดงออกเหล่านี้ แม้จะมีความกำกวมอยู่ด้วย แต่ก็เป็นกิจกรรมที่พบได้ทั่วไป ทำให้เห็นได้ว่ามนุษย์เป็น “ผู้มีศาสนา” (ens religiosum)
พระเจ้า “ทรงทำให้มนุษย์ทุกชาติสืบเชื้อสายมาจากมนุษย์คนเดียว และทรงทำให้เขาทั้งหลายอยู่ทั่วพื้นแผ่นดินโดยทรงกำหนดช่วงเวลาและขอบเขตให้เขาอยู่ พระเจ้าทรงกระทำดังนี้เพื่อให้มนุษย์แสวงหาพระเจ้า เขาพบพระองค์ได้แม้จะต้องคลำหา เพราะพระองค์ทรงอยู่ไม่ห่างจากเราแต่ละคน เรามีชีวิต เคลื่อนไหวและมีความเป็นอยู่ในพระองค์” (กจ 17 : 26-28)
CCC 29 แต่มนุษย์อาจลืม ไม่สนใจ หรือแม้กระทั่งไม่ยอมรับ “ความสัมพันธ์ลึกซึ้งและมีชีวิตชีวากับพระเจ้านี้” ได้ ท่าทีเช่นนี้เกิดขึ้นได้จากสาเหตุหลายประการ : เช่นจากการต่อต้านความเลวร้ายที่มีอยู่ในโลก จากความไม่รู้หรือไม่สนใจเรื่องศาสนา จากความสาละวนต่อโลกนี้และทรัพย์สมบัติ[4] จากตัวอย่างไม่ดีของผู้มีความเชื่อ จากแนวความคิดที่ต่อต้านศาสนา ในที่สุดจากท่าทีของมนุษย์คนบาปที่มีความกลัวและต้องการซ่อนตัวให้พ้นจากพระเจ้า และหลบหนีจากพระองค์ที่ทรงเรียก
CCC 30 “ใจของผู้แสวงหาองค์พระผู้เป็นเจ้าจงชื่นชมเถิด” (สดด 105 : 3) มนุษย์อาจลืมหรือไม่ยอมรับพระเจ้าได้ แต่พระเจ้าไม่เคยทรงหยุดยั้งที่จะเรียกมนุษย์ให้มาแสวงหาพระองค์เพื่อจะได้มีชีวิตและความสุข แต่การแสวงหาพระเจ้านี้เรียกร้องให้มนุษย์ใช้ความพยายามทั้งหมดด้านสติปัญญา ความตั้งใจจริง และ “จิตใจตรง” รวมทั้งการเป็นพยานยืนยันของผู้อื่นซึ่งจะสอนเขาให้แสวงหาพระเจ้าได้ด้วย
“ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า พระองค์ทรงยิ่งใหญ่ น่าสรรเสริญยิ่ง พระอานุภาพและพระปรีชายิ่งใหญ่ของพระองค์ไม่อาจวัดได้ มนุษย์ต้องการสรรเสริญพระองค์ มนุษย์เป็นเพียงส่วนเล็กๆ ส่วนหนึ่งของสรรพสิ่งที่ทรงเนรมิตสร้างไว้ เป็นสิ่งสร้างที่จะต้องตาย มีหลักฐานของบาปอยู่ในตัวและเป็นพยานยืนยันว่าพระองค์ทรงต่อต้านผู้หยิ่งยโส ถึงกระนั้น มนุษย์ซึ่งเป็นส่วนเล็กๆ ส่วนหนึ่งของสรรพสิ่งที่ทรงเนรมิตสร้างไว้ก็ยังปรารถนาจะสรรเสริญพระองค์ พระองค์ทรงปลุกใจเขาให้ยินดีที่จะสรรเสริญพระองค์ เพราะพระองค์ทรงสร้างข้าพเจ้าทั้งหลายไว้สำหรับพระองค์ และใจข้าพเจ้าทั้งหลายสงบอยู่ไม่ได้จนกว่าจะได้พักผ่อนในพระองค์”
––––––––––––––––––––
📌 สามารถติดตามอ่านหรือรับฟังย้อนหลังได้ที่ช่องทาง Facebook และ Youtube ครับ 👇
Facebook Playlist :
https://web.facebook.com/watch/102808045391552/945872893009316
Youtube Playlist :
https://youtube.com/playlist?list=PLZHuESFhfQp_Th59qAd1vLnly-aDc-zAc
📌 ติดตามกันต่อกับหนังสือคำสอนพระศาสนจักรคาทอลิก (CCC) ฉบับหนังสือเสียงของวันพรุ่งนี้ได้ทุกวันในเวลา 7.00 น. ได้ทั้ง 2 ช่องทางนี้ครับ 👇
Facebook Page : https://www.facebook.com/RCIA.BKK
Youtube Channel : MissionBKK
https://www.youtube.com/channel/UChzM2UZuiAxYHJ_jomTfz2w
#แผนกคริสตศาสนธรรมผู้ใหญ่อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ
#คำสอนผู้ใหญ่
#RCIA
หยั่งลึกในความเชื่อวันละนิดกับชีวิตที่ใกล้ชิดพระเจ้ามากยิ่งขึ้น
แผนกคริสตศาสนธรรมผู้ใหญ่ ฝ่ายงานธรรมทูต อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ ขอนำเสนอหนังสือคำสอนพระศาสนจักรคาทอลิก (CCC) ฉบับหนังสือเสียง ซึ่งจัดทำขึ้นเพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้สนใจที่อาจไม่สะดวกในการอ่านในขณะใดขณะหนึ่ง และเป็นพิเศษเพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้สนใจที่มีความทุพพลภาพทางสายตา ทั้งนี้ เป็นการเปิดโอกาสช่วยพวกเขาให้ได้รับฟังและได้เรียนรู้ถึงคำสอนของพระศาสนจักรคาทอลิก รวมถึงคำสอนของพระเยซูเจ้าและบรรดาผู้ศักดิ์สิทธิ์ที่น่าสนใจ แทนการอ่าน (สำหรับเนื้อหาแบบปกติในแต่ละวัน สามารถอ่านติดตามอ่านได้ที่ด้านล่างนี้ครับ 👇)
––––––––––––––––––––
📌 วันที่ 5
- (CCC 26)
บทที่หนึ่ง มนุษย์ “เข้าใจ” พระเจ้าได้
- I. ความปรารถนาที่จะพบพระเจ้า (CCC 27-30)
ส่วนที่หนึ่ง “ข้าพเจ้าเชื่อ” – “ข้าพเจ้าทั้งหลายเชื่อ”
CCC 26 เมื่อเราประกาศยืนยันความเชื่อของเรา เราเริ่มด้วยคำว่า “ข้าพเจ้าเชื่อ” หรือ “ข้าพเจ้าทั้งหลายเชื่อ” ก่อนที่เราจะอธิบายเรื่องความเชื่อของพระศาสนจักร ดังที่เราประกาศยืนยันในบท “ข้าพเจ้าเชื่อ” ดังที่เราเฉลิมฉลองในพิธีกรรม ดังที่เรานำมาปฏิบัติในชีวิตโดยปฏิบัติตามบทบัญญัติต่างๆและโดยการอธิษฐานภาวนา เราน่าจะถามก่อน คำว่า “เชื่อ” นี้หมายความว่าอย่างไร ความเชื่อ เป็นการตอบสนองที่มนุษย์มอบให้แก่พระเจ้าผู้ทรงเปิดเผยและมอบพระองค์ให้แก่เขา พร้อมกันนั้นยังประทานความสว่างแก่มนุษย์เมื่อเขาแสวงหาความหมายสุดท้ายของชีวิตของตน ดังนั้นก่อนอื่นหมดเราจะพิจารณาถึงการแสวงหานี้ของมนุษย์ (บทที่หนึ่ง) แล้วจะพิจารณาถึงการเปิดเผยพระองค์ที่พระเจ้าทรงใช้เป็นหนทางมาพบกับมนุษย์ (บทที่สอง) และในที่สุดจะพิจารณาถึงการตอบสนองต่อความเชื่อนี้ (บทที่สาม)
บทที่หนึ่ง มนุษย์ “เข้าใจ” พระเจ้าได้
I. ความปรารถนาที่จะพบพระเจ้า
CCC 27 ในใจของมนุษย์มีความปรารถนาที่จะพบพระเจ้าจารึกไว้ เพราะมนุษย์ได้รับการเนรมิตสร้างจากพระเจ้าและเพื่อพระเจ้า พระเจ้าไม่ทรงหยุดยั้งเลยที่จะดึงดูดมนุษย์มาหาพระองค์ และในพระเจ้าเท่านั้นมนุษย์จะพบความจริงและความสุขที่เขาแสวงหาอยู่ตลอดเวลาได้
“เหตุผลพิเศษของศักดิ์ศรีที่มนุษย์มีตั้งอยู่ในการที่เขาได้รับเรียกให้มีความสัมพันธ์กับพระเจ้า ตั้งแต่แรกเริ่มแล้วมนุษย์ได้รับเชิญให้สนทนากับพระเจ้า เขาดำรงอยู่ไม่ได้ ถ้าไม่ใช่เพราะพระเจ้าทรงเนรมิตสร้างเขาขึ้นมาเพราะความรัก และทรงรักษาเขาไว้ตลอดมาด้วยความรัก เขาไม่อาจมีชีวิตได้อย่างสมบูรณ์ตามความจริง ถ้าเขาไม่ยอมรับความรักนั้นโดยอิสระเสรีและมอบตนเองให้แก่พระผู้สร้างเขาขึ้นมา”
CCC 28 จากประวัติศาสตร์ในอดีตจนถึงปัจจุบันนี้ มนุษย์ได้แสดงให้เห็นว่าพยายามแสวงหาพระเจ้าด้วยความเชื่อและการปฏิบัติต่างๆ (เช่นการอธิษฐานภาวนา การถวายสักการบูชาคารวกิจ การรำพึงไตร่ตรอง ฯลฯ) รูปแบบการแสดงออกเหล่านี้ แม้จะมีความกำกวมอยู่ด้วย แต่ก็เป็นกิจกรรมที่พบได้ทั่วไป ทำให้เห็นได้ว่ามนุษย์เป็น “ผู้มีศาสนา” (ens religiosum)
พระเจ้า “ทรงทำให้มนุษย์ทุกชาติสืบเชื้อสายมาจากมนุษย์คนเดียว และทรงทำให้เขาทั้งหลายอยู่ทั่วพื้นแผ่นดินโดยทรงกำหนดช่วงเวลาและขอบเขตให้เขาอยู่ พระเจ้าทรงกระทำดังนี้เพื่อให้มนุษย์แสวงหาพระเจ้า เขาพบพระองค์ได้แม้จะต้องคลำหา เพราะพระองค์ทรงอยู่ไม่ห่างจากเราแต่ละคน เรามีชีวิต เคลื่อนไหวและมีความเป็นอยู่ในพระองค์” (กจ 17 : 26-28)
CCC 29 แต่มนุษย์อาจลืม ไม่สนใจ หรือแม้กระทั่งไม่ยอมรับ “ความสัมพันธ์ลึกซึ้งและมีชีวิตชีวากับพระเจ้านี้” ได้ ท่าทีเช่นนี้เกิดขึ้นได้จากสาเหตุหลายประการ : เช่นจากการต่อต้านความเลวร้ายที่มีอยู่ในโลก จากความไม่รู้หรือไม่สนใจเรื่องศาสนา จากความสาละวนต่อโลกนี้และทรัพย์สมบัติ[4] จากตัวอย่างไม่ดีของผู้มีความเชื่อ จากแนวความคิดที่ต่อต้านศาสนา ในที่สุดจากท่าทีของมนุษย์คนบาปที่มีความกลัวและต้องการซ่อนตัวให้พ้นจากพระเจ้า และหลบหนีจากพระองค์ที่ทรงเรียก
CCC 30 “ใจของผู้แสวงหาองค์พระผู้เป็นเจ้าจงชื่นชมเถิด” (สดด 105 : 3) มนุษย์อาจลืมหรือไม่ยอมรับพระเจ้าได้ แต่พระเจ้าไม่เคยทรงหยุดยั้งที่จะเรียกมนุษย์ให้มาแสวงหาพระองค์เพื่อจะได้มีชีวิตและความสุข แต่การแสวงหาพระเจ้านี้เรียกร้องให้มนุษย์ใช้ความพยายามทั้งหมดด้านสติปัญญา ความตั้งใจจริง และ “จิตใจตรง” รวมทั้งการเป็นพยานยืนยันของผู้อื่นซึ่งจะสอนเขาให้แสวงหาพระเจ้าได้ด้วย
“ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า พระองค์ทรงยิ่งใหญ่ น่าสรรเสริญยิ่ง พระอานุภาพและพระปรีชายิ่งใหญ่ของพระองค์ไม่อาจวัดได้ มนุษย์ต้องการสรรเสริญพระองค์ มนุษย์เป็นเพียงส่วนเล็กๆ ส่วนหนึ่งของสรรพสิ่งที่ทรงเนรมิตสร้างไว้ เป็นสิ่งสร้างที่จะต้องตาย มีหลักฐานของบาปอยู่ในตัวและเป็นพยานยืนยันว่าพระองค์ทรงต่อต้านผู้หยิ่งยโส ถึงกระนั้น มนุษย์ซึ่งเป็นส่วนเล็กๆ ส่วนหนึ่งของสรรพสิ่งที่ทรงเนรมิตสร้างไว้ก็ยังปรารถนาจะสรรเสริญพระองค์ พระองค์ทรงปลุกใจเขาให้ยินดีที่จะสรรเสริญพระองค์ เพราะพระองค์ทรงสร้างข้าพเจ้าทั้งหลายไว้สำหรับพระองค์ และใจข้าพเจ้าทั้งหลายสงบอยู่ไม่ได้จนกว่าจะได้พักผ่อนในพระองค์”
––––––––––––––––––––
📌 สามารถติดตามอ่านหรือรับฟังย้อนหลังได้ที่ช่องทาง Facebook และ Youtube ครับ 👇
Facebook Playlist :
https://web.facebook.com/watch/102808045391552/945872893009316
Youtube Playlist :
https://youtube.com/playlist?list=PLZHuESFhfQp_Th59qAd1vLnly-aDc-zAc
📌 ติดตามกันต่อกับหนังสือคำสอนพระศาสนจักรคาทอลิก (CCC) ฉบับหนังสือเสียงของวันพรุ่งนี้ได้ทุกวันในเวลา 7.00 น. ได้ทั้ง 2 ช่องทางนี้ครับ 👇
Facebook Page : https://www.facebook.com/RCIA.BKK
Youtube Channel : MissionBKK
https://www.youtube.com/channel/UChzM2UZuiAxYHJ_jomTfz2w
#แผนกคริสตศาสนธรรมผู้ใหญ่อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ
#คำสอนผู้ใหญ่
#RCIA