📌 365 วัน สู่ความเชื่อที่หยั่งลึก "จากคำสอน สู่ความเชื่อ เพื่อพบพระเจ้า"
หยั่งลึกในความเชื่อวันละนิดกับชีวิตที่ใกล้ชิดพระเจ้ามากยิ่งขึ้น
แผนกคริสตศาสนธรรมผู้ใหญ่ ฝ่ายงานธรรมทูต อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ ขอนำเสนอหนังสือคำสอนพระศาสนจักรคาทอลิก (CCC) ฉบับหนังสือเสียง ซึ่งจัดทำขึ้นเพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้สนใจที่อาจไม่สะดวกในการอ่านในขณะใดขณะหนึ่ง และเป็นพิเศษเพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้สนใจที่มีความทุพพลภาพทางสายตา ทั้งนี้ เป็นการเปิดโอกาสช่วยพวกเขาให้ได้รับฟังและได้เรียนรู้ถึงคำสอนของพระศาสนจักรคาทอลิก รวมถึงคำสอนของพระเยซูเจ้าและบรรดาผู้ศักดิ์สิทธิ์ที่น่าสนใจ แทนการอ่าน (สำหรับเนื้อหาแบบปกติในแต่ละวัน สามารถอ่านติดตามอ่านได้ที่ด้านล่างนี้ครับ 👇)
––––––––––––––––––––
📌 วันที่ 12
III. พระคริสต์เยซูทรงเป็น “คนกลางและความสมบูรณ์ของการเปิดเผยทั้งหมด”
พระเจ้าตรัสทุกสิ่งทุกอย่างในพระวจนาตถ์ของพระองค์ (CCC 65)
- จะไม่มีการเปิดเผยอะไรอื่นจากพระเจ้าอีกต่อไป (CCC 66-67)
- สรุป (CCC 68-73)
III. พระคริสต์เยซูทรงเป็น “คนกลางและความสมบูรณ์ของการเปิดเผยทั้งหมด”
พระเจ้าตรัสทุกสิ่งทุกอย่างในพระวจนาตถ์ของพระองค์
CCC 65 “ในอดีต พระเจ้าตรัสกับบรรพบุรุษของเราโดยทางประกาศกหลายวาระและหลายวิธี ครั้นสมัยนี้เป็นวาระสุดท้าย พระองค์ตรัสกับเราโดยทางพระบุตร” (ฮบ 1 : 1-2) พระคริสตเจ้า พระบุตรของพระเจ้าผู้ทรงรับสภาพมนุษย์ ทรงเป็นพระวจนาตถ์ของพระบิดาแต่เพียงหนึ่งเดียว สมบูรณ์และอยู่เหนือสรรพสิ่ง พระบิดาตรัสทุกสิ่งในพระวจนาตถ์ และจะไม่มีพระวาจาอื่นใดอีกแล้ว นักบุญยอห์นแห่งไม้กางเขน เช่นเดียวกับผู้อื่นอีกหลายคน ได้อธิบายข้อความใน ฮบ 1 : 1-2 ไว้อย่างน่าฟังว่า :
“เมื่อพระบิดาประทานพระบุตรของพระองค์แก่เรา ดังที่ได้ประทาน พระบุตรนี้ทรงเป็นพระวจนาตถ์เพียงหนึ่งเดียวของพระองค์ พระองค์ก็ตรัสทุกสิ่งแก่เราพร้อมกันในพระวจนาตถ์เพียงพระองค์เดียวนี้ และไม่ทรงมีอะไรอื่นจะตรัสกับเราอีก [...] เรื่องราวที่ก่อนหน้านั้นพระองค์เคยตรัสเป็นส่วนๆ โดยทางประกาศก บัดนี้พระองค์ได้ตรัสทุกสิ่งแก่เราในพระวจนาตถ์ โดยประทานพระวจนาตถ์นี้ทั้งหมดให้แก่เรา คือองค์พระบุตร เพราะฉะนั้น ผู้ใดที่บัดนี้ต้องการสืบหาความรู้ใดๆ จากพระเจ้า หรือวอนขอนิมิตหรือการเปิดเผยใดๆ จากพระองค์ ก็น่าจะทำอะไรที่ทั้งโง่เขลาและยังดูเหมือนเป็นการลบหลู่พระเจ้าด้วย จากการที่ไม่เพ่งตามองดูพระคริสตเจ้า หรือจากการที่ไปแสวงหาสิ่งอื่นหรือสิ่งใดใหม่ๆนอกเหนือจากพระองค์”
จะไม่มีการเปิดเผยอะไรอื่นจากพระเจ้าอีกต่อไป
CCC 66 “แผนการความรอดพ้นในพระคริสตเจ้า ในฐานะที่เป็นพันธสัญญาใหม่และเด็ดขาดนี้จะไม่ผ่านพ้นไปเลย และเราไม่ต้องรอคอยการเผยอะไรใหม่กับมนุษย์ทั้งหลายอีกต่อไปก่อนจะถึงการปรากฏองค์อย่างรุ่งโรจน์ของพระเยซูคริสต์ องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา” ถึงกระนั้น การเปิดเผยแม้จะสำเร็จแล้วก็ยังไม่ได้รับการอธิบายอย่างสมบูรณ์ ความเชื่อในพระคริสตเจ้า จึงยังมีโอกาสจะต้องค่อยๆ ได้รับความเข้าใจกว้างขวางยิ่งขึ้นในช่วงเวลาที่ผ่านมา
CCC 67 ตลอดเวลาที่ผ่านมาก็ยังมีการเปิดเผยที่เรียกได้ว่า “ส่วนตัว” หลายครั้ง การเปิดเผยเช่นนี้บางครั้งก็ได้รับการรับรองจากผู้มีอำนาจปกครองในพระศาสนจักร แต่การเปิดเผยเหล่านี้ก็ไม่นับรวมเป็นคลังความเชื่อของ พระศาสนจักร บทบาทของการเปิดเผยส่วนตัวเหล่านี้ไม่ใช่เพื่อทำให้การเปิดเผยเด็ดขาดของพระคริสตเจ้า “ดีขึ้น” หรือ “สมบูรณ์ขึ้น” แต่เพื่อช่วยให้การเปิดเผยทางการนี้ได้รับการนำไปปฏิบัติในชีวิตให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้นในช่วงเวลาหนึ่งของประวัติศาสตร์ จิตสำนึกของผู้มีความเชื่อที่มีผู้มีอำนาจสอนของพระศาสนจักรคอยแนะนำ สามารถแยกแยะและยอมรับว่าในการเปิดเผยส่วนตัวเหล่านี้มีอะไรบ้างที่เป็นคำแนะนำแท้จากพระคริสตเจ้าหรือจากบรรดาผู้ศักดิ์สิทธิ์
ความเชื่อของคริสตศาสนาไม่อาจรับ “การเปิดเผย” ที่พยายามเอาชนะหรือแก้ไขการเปิดเผยทางการที่พระคริสตเจ้าทรงทำให้สมบูรณ์แล้ว ดังที่พบได้ในศาสนาต่างๆ ที่ไม่ใช่คริสตศาสนา หรือในนิกายต่างๆที่เกิดขึ้นโดยอิงอยู่กับ “การเปิดเผย” ต่างๆ เช่นนี้
สรุป
CCC 68 พระเจ้าทรงมอบและเปิดเผยพระองค์ให้แก่มนุษย์ด้วยความรัก ดังนั้นจึงนำคำตอบเด็ดขาดและเหนือความคาดหมายมาให้แก่คำถามต่างๆ ที่มนุษย์มักตั้งเกี่ยวกับความหมายและจุดประสงค์ของชีวิต
CCC 69 พระเจ้าทรงเปิดเผยพระองค์แก่มนุษย์ ทรงใช้การกระทำและพระวาจาค่อยๆ สื่อให้มนุษย์รู้พระธรรมล้ำลึกของพระองค์
CCC 70 นอกจากหลักฐานที่พระเจ้าทรงแสดงให้เห็นในสิ่งที่ทรงสร้างขึ้นมาแล้ว พระองค์ยังทรงแสดงพระองค์แก่บิดามารดาเดิมของเรา พระองค์ตรัสกับเขา และเมื่อเขาตกในบาปแล้ว ก็ทรงสัญญาจะประทานความรอดพ้นให้ และยังประทานพันธสัญญาให้เขาด้วย
CCC 71 พระเจ้าทรงทำพันธสัญญานิรันดรกับโนอาห์ เป็นพันธสัญญาระหว่างพระองค์กับทุกสิ่งที่มีชีวิต พันธสัญญากับโนอาห์นี้จะคงอยู่ตลอดเวลาที่โลกนี้คงอยู่
CCC 72 พระเจ้าทรงเลือกอับราฮัมและทรงทำพันธสัญญากับเขาและลูกหลาน พระองค์ทรงก่อตั้งประชากรของพระองค์จากอับราฮัม และทรงเปิดเผยธรรมบัญญัติของพระองค์แก่ประชากรนี้ผ่านทางโมเสส พระองค์ทรงใช้บรรดาประกาศกมาเตรียมประชากรนี้เพื่อรับความรอดพ้นที่ทรงกำหนดไว้สำหรับมวลมนุษย์
CCC 73 พระเจ้าทรงเปิดเผยพระองค์อย่างสมบูรณ์โดยทรงส่งพระบุตร พระองค์ทรงสถาปนาพันธสัญญาที่จะคงอยู่ตลอดนิรันดรในองค์พระบุตร พระบุตรนี้คือพระวจนาตถ์เด็ดขาดของพระบิดา และดังนี้จึงจะไม่มีการเปิดเผยใดๆ หลังจากนี้อีกแล้ว
––––––––––––––––––––
#แผนกคริสตศาสนธรรมผู้ใหญ่อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ
#คำสอนผู้ใหญ่
#RCIA
หยั่งลึกในความเชื่อวันละนิดกับชีวิตที่ใกล้ชิดพระเจ้ามากยิ่งขึ้น
แผนกคริสตศาสนธรรมผู้ใหญ่ ฝ่ายงานธรรมทูต อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ ขอนำเสนอหนังสือคำสอนพระศาสนจักรคาทอลิก (CCC) ฉบับหนังสือเสียง ซึ่งจัดทำขึ้นเพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้สนใจที่อาจไม่สะดวกในการอ่านในขณะใดขณะหนึ่ง และเป็นพิเศษเพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้สนใจที่มีความทุพพลภาพทางสายตา ทั้งนี้ เป็นการเปิดโอกาสช่วยพวกเขาให้ได้รับฟังและได้เรียนรู้ถึงคำสอนของพระศาสนจักรคาทอลิก รวมถึงคำสอนของพระเยซูเจ้าและบรรดาผู้ศักดิ์สิทธิ์ที่น่าสนใจ แทนการอ่าน (สำหรับเนื้อหาแบบปกติในแต่ละวัน สามารถอ่านติดตามอ่านได้ที่ด้านล่างนี้ครับ 👇)
––––––––––––––––––––
📌 วันที่ 12
III. พระคริสต์เยซูทรงเป็น “คนกลางและความสมบูรณ์ของการเปิดเผยทั้งหมด”
พระเจ้าตรัสทุกสิ่งทุกอย่างในพระวจนาตถ์ของพระองค์ (CCC 65)
- จะไม่มีการเปิดเผยอะไรอื่นจากพระเจ้าอีกต่อไป (CCC 66-67)
- สรุป (CCC 68-73)
III. พระคริสต์เยซูทรงเป็น “คนกลางและความสมบูรณ์ของการเปิดเผยทั้งหมด”
พระเจ้าตรัสทุกสิ่งทุกอย่างในพระวจนาตถ์ของพระองค์
CCC 65 “ในอดีต พระเจ้าตรัสกับบรรพบุรุษของเราโดยทางประกาศกหลายวาระและหลายวิธี ครั้นสมัยนี้เป็นวาระสุดท้าย พระองค์ตรัสกับเราโดยทางพระบุตร” (ฮบ 1 : 1-2) พระคริสตเจ้า พระบุตรของพระเจ้าผู้ทรงรับสภาพมนุษย์ ทรงเป็นพระวจนาตถ์ของพระบิดาแต่เพียงหนึ่งเดียว สมบูรณ์และอยู่เหนือสรรพสิ่ง พระบิดาตรัสทุกสิ่งในพระวจนาตถ์ และจะไม่มีพระวาจาอื่นใดอีกแล้ว นักบุญยอห์นแห่งไม้กางเขน เช่นเดียวกับผู้อื่นอีกหลายคน ได้อธิบายข้อความใน ฮบ 1 : 1-2 ไว้อย่างน่าฟังว่า :
“เมื่อพระบิดาประทานพระบุตรของพระองค์แก่เรา ดังที่ได้ประทาน พระบุตรนี้ทรงเป็นพระวจนาตถ์เพียงหนึ่งเดียวของพระองค์ พระองค์ก็ตรัสทุกสิ่งแก่เราพร้อมกันในพระวจนาตถ์เพียงพระองค์เดียวนี้ และไม่ทรงมีอะไรอื่นจะตรัสกับเราอีก [...] เรื่องราวที่ก่อนหน้านั้นพระองค์เคยตรัสเป็นส่วนๆ โดยทางประกาศก บัดนี้พระองค์ได้ตรัสทุกสิ่งแก่เราในพระวจนาตถ์ โดยประทานพระวจนาตถ์นี้ทั้งหมดให้แก่เรา คือองค์พระบุตร เพราะฉะนั้น ผู้ใดที่บัดนี้ต้องการสืบหาความรู้ใดๆ จากพระเจ้า หรือวอนขอนิมิตหรือการเปิดเผยใดๆ จากพระองค์ ก็น่าจะทำอะไรที่ทั้งโง่เขลาและยังดูเหมือนเป็นการลบหลู่พระเจ้าด้วย จากการที่ไม่เพ่งตามองดูพระคริสตเจ้า หรือจากการที่ไปแสวงหาสิ่งอื่นหรือสิ่งใดใหม่ๆนอกเหนือจากพระองค์”
จะไม่มีการเปิดเผยอะไรอื่นจากพระเจ้าอีกต่อไป
CCC 66 “แผนการความรอดพ้นในพระคริสตเจ้า ในฐานะที่เป็นพันธสัญญาใหม่และเด็ดขาดนี้จะไม่ผ่านพ้นไปเลย และเราไม่ต้องรอคอยการเผยอะไรใหม่กับมนุษย์ทั้งหลายอีกต่อไปก่อนจะถึงการปรากฏองค์อย่างรุ่งโรจน์ของพระเยซูคริสต์ องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา” ถึงกระนั้น การเปิดเผยแม้จะสำเร็จแล้วก็ยังไม่ได้รับการอธิบายอย่างสมบูรณ์ ความเชื่อในพระคริสตเจ้า จึงยังมีโอกาสจะต้องค่อยๆ ได้รับความเข้าใจกว้างขวางยิ่งขึ้นในช่วงเวลาที่ผ่านมา
CCC 67 ตลอดเวลาที่ผ่านมาก็ยังมีการเปิดเผยที่เรียกได้ว่า “ส่วนตัว” หลายครั้ง การเปิดเผยเช่นนี้บางครั้งก็ได้รับการรับรองจากผู้มีอำนาจปกครองในพระศาสนจักร แต่การเปิดเผยเหล่านี้ก็ไม่นับรวมเป็นคลังความเชื่อของ พระศาสนจักร บทบาทของการเปิดเผยส่วนตัวเหล่านี้ไม่ใช่เพื่อทำให้การเปิดเผยเด็ดขาดของพระคริสตเจ้า “ดีขึ้น” หรือ “สมบูรณ์ขึ้น” แต่เพื่อช่วยให้การเปิดเผยทางการนี้ได้รับการนำไปปฏิบัติในชีวิตให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้นในช่วงเวลาหนึ่งของประวัติศาสตร์ จิตสำนึกของผู้มีความเชื่อที่มีผู้มีอำนาจสอนของพระศาสนจักรคอยแนะนำ สามารถแยกแยะและยอมรับว่าในการเปิดเผยส่วนตัวเหล่านี้มีอะไรบ้างที่เป็นคำแนะนำแท้จากพระคริสตเจ้าหรือจากบรรดาผู้ศักดิ์สิทธิ์
ความเชื่อของคริสตศาสนาไม่อาจรับ “การเปิดเผย” ที่พยายามเอาชนะหรือแก้ไขการเปิดเผยทางการที่พระคริสตเจ้าทรงทำให้สมบูรณ์แล้ว ดังที่พบได้ในศาสนาต่างๆ ที่ไม่ใช่คริสตศาสนา หรือในนิกายต่างๆที่เกิดขึ้นโดยอิงอยู่กับ “การเปิดเผย” ต่างๆ เช่นนี้
สรุป
CCC 68 พระเจ้าทรงมอบและเปิดเผยพระองค์ให้แก่มนุษย์ด้วยความรัก ดังนั้นจึงนำคำตอบเด็ดขาดและเหนือความคาดหมายมาให้แก่คำถามต่างๆ ที่มนุษย์มักตั้งเกี่ยวกับความหมายและจุดประสงค์ของชีวิต
CCC 69 พระเจ้าทรงเปิดเผยพระองค์แก่มนุษย์ ทรงใช้การกระทำและพระวาจาค่อยๆ สื่อให้มนุษย์รู้พระธรรมล้ำลึกของพระองค์
CCC 70 นอกจากหลักฐานที่พระเจ้าทรงแสดงให้เห็นในสิ่งที่ทรงสร้างขึ้นมาแล้ว พระองค์ยังทรงแสดงพระองค์แก่บิดามารดาเดิมของเรา พระองค์ตรัสกับเขา และเมื่อเขาตกในบาปแล้ว ก็ทรงสัญญาจะประทานความรอดพ้นให้ และยังประทานพันธสัญญาให้เขาด้วย
CCC 71 พระเจ้าทรงทำพันธสัญญานิรันดรกับโนอาห์ เป็นพันธสัญญาระหว่างพระองค์กับทุกสิ่งที่มีชีวิต พันธสัญญากับโนอาห์นี้จะคงอยู่ตลอดเวลาที่โลกนี้คงอยู่
CCC 72 พระเจ้าทรงเลือกอับราฮัมและทรงทำพันธสัญญากับเขาและลูกหลาน พระองค์ทรงก่อตั้งประชากรของพระองค์จากอับราฮัม และทรงเปิดเผยธรรมบัญญัติของพระองค์แก่ประชากรนี้ผ่านทางโมเสส พระองค์ทรงใช้บรรดาประกาศกมาเตรียมประชากรนี้เพื่อรับความรอดพ้นที่ทรงกำหนดไว้สำหรับมวลมนุษย์
CCC 73 พระเจ้าทรงเปิดเผยพระองค์อย่างสมบูรณ์โดยทรงส่งพระบุตร พระองค์ทรงสถาปนาพันธสัญญาที่จะคงอยู่ตลอดนิรันดรในองค์พระบุตร พระบุตรนี้คือพระวจนาตถ์เด็ดขาดของพระบิดา และดังนี้จึงจะไม่มีการเปิดเผยใดๆ หลังจากนี้อีกแล้ว
––––––––––––––––––––
#แผนกคริสตศาสนธรรมผู้ใหญ่อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ
#คำสอนผู้ใหญ่
#RCIA