ความเชื่อเป็นความรู้และความไว้วางใจ มีลักษณะเฉพาะ 7 ประการ คือ

• ความเชื่อเป็นพระพรแท้จริงของพระเจ้า ซึ่งเราได้รับ เมื่อเราวอนขออย่างร้อนรน

• ความเชื่อเป็นอานุภาพเหนือธรรมชาติที่จำเป็นอย่างยิ่ง ถ้าเราต้องการบรรลุถึงการช่วยให้รอดพ้น

• ความเชื่อเรียกร้องน้ำใจอิสระ และความเข้าใจที่ชัดเจนของบุคคล เมื่อเขายอมรับการเชื้อเชิญของพระเจ้า

• ความเชื่อเป็นความมั่นใจแน่นอน เพราะพระเยซูเจ้าทรงรับประกัน

• ความเชื่อยังไม่สมบูรณ์ หากไม่นำไปปฏิบัติด้วยความรัก

• ความเชื่อเติบโตขึ้น เมื่อเรารับฟังและเอาใจใส่ต่อพระวาจาของพระเจ้ามากขึ้น และเข้าสู่การ แลกเปลี่ยนสนทนากับพระองค์อย่างมีชีวิตชีวาในการอธิษฐานภาวนา

• ความเชื่อทำให้เราได้ลิ้มรสความปิติยินดีล่วงหน้าในสวรรค์ ตั้งแต่บัดนี้ (153-165, 179-180, 183-184)

หลายคนกล่าวว่าความเชื่อนั้นไม่เพียงพอสำหรับพวกเขาพวกเขาต้องการรู้ด้วย คำว่า "เชื่อ" มีความหมายสองประการที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง หาก นักโดดร่มถามเจ้าหน้าที่สนามบินว่า "ร่มชูชีพนี้พับเก็บ ถูกต้องหรือไม่" และเขาตอบอย่างไม่ใส่ใจว่า "อืม ผมเชื่อว่าอย่างนั้น" คำตอบนี้ย่อมไม่เพียงพอสำหรับเขา เขาต้องการรู้แน่ชัดเพื่อความมั่นใจหากเขาขอให้เพื่อนเก็บร่มชูชีพให้ และเพื่อนของเขาตอบกลับมาว่า "ใช่ ผมเป็นคนเก็บเอง" นักโดดร่มก็จะตอบว่า "ผมเชื่อคุณ" ความเชื่อนี้เป็นมากกว่าความรู้ คือความเชื่อมั่นความเชื่อเช่นนี้ทำให้อับราฮัมเดินทางไปยังแผ่นดินแห่งพระสัญญาโดยทันทีความเชื่อทำให้บรรดามรณสักขียืนหยัด อย่างมั่นคงจนถึงความตาย และทุกวันนี้ความเชื่อยังค้ำจุนบรรดาคริสตชนที่ถูกเบียดเบียนข่มเหงความเชื่อนี้มีอิทธิพลครอบคลุมตัวบุคคลทั้งหมด