ดังเช่นที่อับราฮัมภาวนาอ้อนวอนเพื่อชาวเมือง โสดม และพระเยซูเจ้าทรงภาวนาเพื่อบรรดาศิษย์ของพระองค์ และในชุมชนคริสตชนยุคแรก ๆ เห็นว่า “อย่าเห็นแก่ผลประโยชน์ของตนฝ่ายเดียว จงเห็นแก่ผลประโยชน์ของผู้อื่นด้วย” (ฟป 2:4) ดังนั้น คริสตชนก็เช่นกันควรภาวนาอยู่เสมอเพื่อทุกคน เพื่อ ผู้เป็นที่รักเพื่อผู้ที่มิได้ใกล้ชิด และแม้แต่เพื่อผู้ที่เป็น ศัตรู (2634-2636, 2647)

ยิ่งเราเรียนรู้การภาวนา เรายิ่งตระหนักลึกซึ้งมาก ขึ้นในความจริงที่ว่า เราสัมพันธ์กับครอบครัวทางจิตวิญญาณ ซึ่งเกิดจากอํานาจการภาวนา ด้วยความห่วงใย ต่อทุกคนที่ฉันรัก ฉันอยู่ในครอบครัวมนุษยชาติ ฉันจึงได้รับพละกําลังจากการภาวนาของผู้อื่น และร้องขอความ ช่วยเหลือจากพระเจ้าเพื่อผู้อื่น 477